วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ปัญหาการใช้บริการรถแท็กซี่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ


ปัญหารถแท็กซี่ที่สุวรรณภูมิ  เนื่องจากผมเดินทางกลับมาจาก ต่างประเทศ และไปใช้บริการแท็กซี่สาธารณะ ที่สุวรรณภูมิ ที่้เก็บค่าธรรมเนียม 50บาท เดินทาง สี่ท่าน กระเป๋ากลับมาเท่าเดิม มีถุงที่ซื้อของนิดหน่อย เวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าไปเรียกแท็กซี่ พนักงานที่วินบอกว่าถ้า สี่คนต้อง แบ่งเป็น สองคัน แต่ถ้า จะนั่งสี่คน ในคันเดียวต้องเป็นราคาเหมา 
 1.รถแท็กซี่ มีสิทธิปฏิเสธผู้โดยสารหรือไม่ 
2.ทำไมถ้าไปสี่คนคันเดียวได้ต้องเหมา ขณะนี้ตี1ผมเรียกรถแท็กซี่ชั้น4ซึ่งพวกผมนั่งกันได้ แต่ ทำไมแท็กซี่ที่ท่านบริการถึงไม่รับ กรณีนี้ผมตั้งข้อสังเกตุว่า จนท วิน พยายามเพิ่มรายได้จากการเก็บ หัวคิว ค่ารถ และ ไม่รู้ว่าเค้าทำแบบนี้ไปกี่คนแล้ว บ้านที่มีมู้หญิงทั้งบ้าน ถ้าแท็กซี่ไม่รับ แล้วพวกเค้าจะกลับยังไงคับ แล้วชาวต่างชาติ ไม่รู้ว่าโดนไปแล้วกี่ราย ทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียงมากเลย
  ซึ่งเรื่องดังกล่าวผมได้เคยเล่าไปแล้วในบางตอน ของรถแท็กซี่ นะครับ เมื่อช่วงเดือน มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะดังกล่าวผิด กฏหมายหลายข้อแต่ ผู้รับสัมปทานก็ยังจะทำกัน

เหนื่อยมาก ถ้าสังคมไทยจะเป็นอย่างนี้ และไม่มีใครช่วยกันพัฒนา

Tip when arrive at the airport in Thailand

 Arrive at the airport, please kindly proceed downstairs to get the taxi-meter with additional 50THB charging on top of the meter rate. 
but if the driver or staff at Taxi stand ask you to divide into 2 cars, please fight for the right, if you are 4 person with the few baggage, you should be able to sit in 1 car.
They might give you another choice to get in 1 group in the same car, but taxi will not put meter on, which is not correct and illegal , please kindly contact tourist police or Airport police.
if they cannot find you the solution, please go up to the forth floors,and take taxi there.  

วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

ประสบการ์ณชีวิต ที่ ได้เรียนรู้ คือสิ่งที่ดี และควรนำไปพัฒนาตนเอง

วันนี้ขอเป็นกำลังใจ ให้ กับทุกท่านที่เจออุปสรรคในการเรียน การทำงาน ชีวิต ความรัก หรือเรื่องราวต่างๆ เข้ามานะครับ ให้คุณเข็มแข็ง และทำใจยอมรับมัน ถึงแม้ว่ามันจะยากที่ทำใจยอมรับ แต่ยังครับ ยังไม่ใช่ตอนนี้ ให้คุณ หยุด ตั้งสติ แล้วเริ่มค่อยๆ คิดแก้ไขปัญหา ยังไม่ต้องทำใจยอมรับมันตอนนี้ก็ได้ เพียงแค่ คิด ไตร่ตรอง แล้วคุณจะรู้ครับว่ายังมีคนมากมายที่พบปัญหาหนักหนากว่าคุณ 
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องการเรียน ขอให้ระลึกไว้ครับว่า ยังมีอีกเป็นล้านคนบนโลกใบนี้ มีปัญหาเช่นเดียวกับคุณ แล้วถ้าคุณท้อ คนอื่นๆ ก็ท้อ ดังนั้น ต้องเปลี่ยนวิธีคิดครับ คิดว่าจะทำอย่างไรที่จะให้เอาชนะมันให้ได้ แล้วเมื่อคุณเอาชนะมันได้ นั่นแหละครับคุณคือผู้ชนะมัน หลังจากนั้น ก็นำเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปัน ให้คนอื่นได้รู้จักวิธีรับมือกับมัน 
หรือถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการงาน ก็ยังมีอีกไม่น้อยที่พบปัญหาเช่นเดียวกับคุณ แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออกของมันครับ เมื่อถึงเวลา เพียงแต่คุณไม่ท้อ เดินหน้าสู้กับมันจนถึงที่สุด ให้มันถึงที่สุดจริงๆนะครับ แล้วค่อยยอมแพ้ต่อปัญหา แต่ถ้าเมื่อไหร่ มันยังไม่สุด และคุณยังไม่พยายามจนสุดความสามารถ นั่นแสดงว่าคุณยังไม่ลงมีเต็มที่ เมื่อถึงเวลา ทางออกมันจะมาพร้อมกับความสำเร็จที่คุณเฝ้ารอครับ
สำหรับคนที่อกหัก รักคุด หรือโดนทิ้ง ขอให้จำไว้นะครับว่า ยังมีอีก หลายคนมากครับ ที่เจอหักกว่าคุณ บางคน ครบกันมา ยี่สิบ สามสิบปี เลิกกัน ทำไม พวกเค้ายังเดินหน้าและดำรงชีวิตอยู่ได้ ก็เพราะพวกเค้าสู้ และ ยอมรับมัน ฝ่าฝัน ท้ายที่สุด คุณคือผู้ชนะครับ ไม่มีใครที่ชีวิตเกิดมาโรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไปครับ ถ้าอย่างนั้นเราคงไม่เรียกกันว่ามนุษย์ ทุกคนล้วนมี รัก โลภ โกรธ หลง แต่ขอให้ทุกอย่างตั้งมั่นอยู่กับสติ สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดเกิดปัญหา เหมือนที่โบราณว่าไว้แน่นอนครับ 
ที่ให้มองคนที่ด้อยกว่า ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่แหงนขึ้นไปมองคนที่เด่นกว่านะครับ ข้อนี้ยิ่งสำคัญ คุณต้องพยายาม ทำ และ ฝ่าฝันให้ มัน ผ่านไปถึงจุดนั้นให้ได้ 

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านมีสติ และหันมองคนรอบๆ ตัวครับ ว่ามีใครที่เราไว้ใจ หรือพอจะขอความช่วยเหลือ คำปรึกษา ข้อเสนอแนะได้ครับ หรือถ้าไม่มี คุณลองคุยกับตัวเองในกระจกดูนะครับ ผมว่าอย่างน้อยคุณต้องเจออะไรดีๆ หรือได้อะไรดีๆ ขึ้นมาแน่ 
ผมเป็นหนึ่งคน ที่พร้อมจะให้กำลังใจทุกท่านนะครับ แต่ขออย่างเดียว เป็นคนดีของครอบครัว สังคม ประเทศชาติ ผมเชื่อครับว่าสักวัน สิ่งดีๆ หล่าวนี้ต้องกลับมาตอบแทนคุณ

รักและ เคารพ ครับ

สุรเจต ปัณณะวงศ์ 

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

AEC เตรียมตัวกันหรือยัง ???

ใกล้เข้ามาแล้วครับ กับ การรวมตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งในไม่ช้านี้ เราคงจะได้เห็นชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ เต็มบ้านเมืองของเรา และอาจจะมาแย่งอาชีพที่ หลายๆท่าน กำลังทำอยู่เป็นแน่
การต่ิอสู้กับ แรงงานต่างชาติ หรือ Expat ที่จะแห่เข้ามาทำงานที่ไทยก็คือ คนไทย หรือแรงงานไทยต้องพัฒนาศักยภาพของตนให้ รุดหน้า กว่า ชาติต่างๆครับ
ขอยกตัวอย่างดังนี้นะครับ
1. ต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติ ในการ ปฏิบัติงาน ซึ่ง ควรจะเป็นคนที่ตรงต่อเวลา หรือ มาก่อนกำหนดเวลา
2. ทัศนคติที่ ต่างชาติ หลายๆ ประเทศ เข้าใจว่า "ไม่เป็นไีร" ในความเห็นของผม บางสิ่งบางอย่าง ถ้าเราปล่อยไว้แล้วไม่รู้จักท้วงติง หรือกลัว ว่า ข้อเสนอแนะที่เสนอไป หัวหน้าหรือผู้ใหญ่จะมองว่าไม่ดี
ให้เราเปลี่ยนทัศนคติใหม่ว่า เราติเพื่อก่อ ไม่ใช่ติเพื่อให้ดูแย่ลง เพราะฉะนั้น เราไม่ควรปล่อยให้ ทุกอย่าง "ไม่เป็นไร" เราควรจะบอกว่าสิ่งนั้นดี ไม่ดี และ เราจึงควรให้คำแนะนำหรือข้อวิธีการแก้ไขไปด้วย ไม่ใช่ติอย่างเดียว จะเป็นไปได้ว่าการติ โดยไม่ให้ข้อเสนอแนะ เป็นเรื่องที่ คนอื่นอาจจะมองไม่ดี
3. ภาษา อันนี้ เราคงจะต้องพัฒนากันอีกยาวไกล เพราะประเทศเราเน้นเรื่อง grammar มาแต่ไหนแต่ไร
เน้นเรื่อง sentence การวางตำแหน่ง แต่เราไม่ได้เน้นให้นักเรียนฝึกการใช้ภาษา
ดังนั้น หาก ท่านมีลูกหลาน ก็แนะนำว่าควรจะหัดตั้งแต่เล็กๆ พูดหรือเล่นกับเด็กๆ หรืออาจจะใช้ภาษาอังกฤษมาสอดแทรกในการทำกิจกรรมยามวาง
เอาเป็นว่า แค่ สามอย่างนี้ ก็ต้องใช้เวลาพัฒนาอีกนานเลยครับ
ยังไงก็ ของ ฝากไว้ด้วยนะครับ สำหรับใครที่กำลังจะคิดว่ากระตุ้นตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมรับ AEC ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า
คุณยังมีเวลาเตรียมตัว โดยเฉพาะเรื่องภาษา ยิ่งรู้หลากหลายภาษา พูดได้หลากหลายภาษา ได้เปรียบมากๆ เลยครับ

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2556

มาตราฐานและคุณสมบัติการเป็นอาจารย์ที่ดี

ตามรายละเอียดเนื้อหา ใน ตอนที่แล้ว วันนี้ขอนำเสนอ เรื่องสืบเนื่องซึ่งเป็นผลกระทบที่ส่งผล ต่อการศึกษาไทย
แต่ไร้การเยียวยาของผู้รู้เห็นและปล่อยให้กระทำการเช่นนี้ ฉวยโอกาส หารายได้ รักษาพวกพ้อง และที่สำคัญขึ้นชื่อว่าเป็นอาจารย์ยังทำได้แบบนี้ คงไม่ต้องสืบหาอะไรกันอีกแล้วหล่ะครับ จรรยาบรรณ
การรับสมัครคัดเลือกเข้าเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยควรได้รับการควบคุม จากกระทรวงศึกษามิใช่ปล่อยให้ รับเอง ทำกันเอง แล้วก็ไม่ได้มาตราฐาน อยากให้มีการตั้งคณะกรรมการภายนอกซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ในที่นี้ หมายรวมถึงมีจริยธรรม และจรรยาบรรณ ซึ่งไม่ทุจริต หรือกระทำการใดๆ โดยเห็นแต่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง
การรับคัดเลือก นอกจากมีคณะกรรมการแต่งตั้งจากภายนอกแล้ว เห็นสมควรที่จะมีคณะกรรมการกลางซึ่งตรวจสอบคุณสมบัติ และ ความสามารถให้ตรงต่อความต้องการของหลักสูตรอย่างแท้จริง
เห็นสมควรที่จะให้ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมการสมัคร และ ให้จัดการแข่งขัน ในเชิงทฤษฏีและความรู้ความสามารถในการสอน
มิ่ แต่การสัมภาษณ์ปากเปล่าซึ่ง ไม่สามารถวัดอะไรในตัวผู้สมัครได้เลย เพราะปริญญาบัตรในแต่ละใบ ไม่ได้บ่งบอกว่าผู้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญและชำนาญอย่างแท้จริง อีกทั้ง ไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงความรู้ ความสามารถ ของผู้สมัครนั้นได้โดยตรง
ทั้งนี้ การที่เป็นอาจารย์ แล้วเที่ยวสอนเด็กนักเรียนในเชิงทฤษฎีอย่างเดียวนั้น ไม่เห็นด้วย อาจารย์ควรจะมีประวัติ และประสบการณ์ในการดำเนินงาน หรือ เคยผ่านสถานประกอบการนั้นๆ อย่างแท้จริง
ยกตัวอย่างเช่น อาจารย์บางท่าน สอน เกี่ยวกับเรื่องการบิน การ ออกตั๋วโดยสาร หรือแม้แต่กระทั่งการบริการบนเครื่องบิน
แต่อาจารย์บางส่วนยังไม่เคยได้มีประสบการณ์ ขึ้นเครื่องบิน หรือใช้บริการ ชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจเลย เป็นที่น่าละอายที่ยำความรู้แต่ทฤษฎีที่ได้เรียนมา ถ่ายทอดและส่งต่อ แต่ปราศจากความรู้ ความเข้าใจ ประจักษ์อย่างแท้จริง
อาจารย์บางท่าน คิดว่าตัวเองสอนได้ดีหมดทุกเรื่อง แต่ไม่ได้ย้อนกลับไปดูเลยว่า ทุกเรื่องที่สอน ผู้เรียน เกิดความเข้าใจหรือวัดผลที่ถูกต้อง
สุดท้ายนี้ อาจารย์ เป็นผู้ที่มีความรู้และได้รับความน่าเชื่อถือจากศิษย์ พ่อแม่ ผู้ปกครอง
แต่ก็ต้องกระทำตนให้อยู่ตามธรรมนองครองธรรม ไม่ใช่สอนศิษย์ให้รู้จักกฏ แต่ตัวเอง ละเมิดกฏเสียเอง ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนพวกนี้ ลอยหน้าลอยตาในสังคมได้อย่างไร
บทเรียนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่ามองคนหรือตัดสินคนแค่ภายนอก หรือแค่ใบปริญญา เพราะ ใครๆก็สามารถเรียนจบในชั้นที่ตัวเองปรารถนาได้ หากแต่ควรคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดกับลูกศิษย์ของเรา โปรดคิดว่าลูกศิษย์ของเราคือลูกแท้ๆในไส้ของเรา
เราต้องซื่อสัตย์ จริงใจ และนำสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกๆของเรา
ปล. ครูรักลูกศิษย์ของครู และครูก็ไม่เคยลืมทุกคน ขอให้พวกหนูโตเป็นคนดีของสังคม ตั้งใจเรียน แล้วมาช่วยพัฒนาชาติ บ้านเมืองของเรากันนะครับ. จากใจ.

วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2556

การสมัครงานและสัมภาษณ์งานอาจารย์ มหาวิทยาลัยรัฐ แห่งหนึ่ง วิทยาเขตเพชรบุรี

การสมัครงานและสัมภาษณ์งานอาจารย์ มหาวิทยาลัยรัฐ แห่งหนึ่ง วิทยาเขตเพชรบุรี

วันนี้ ได้มีโอกาส ไปสัมภาษณ์งาน ในตำแหน่งอาจารย์ มหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ วิทยาเขตเพชรบุรี โดยมีว่าที่ Candidates อยู่ทั้งหมด 3 ท่าน เหตุการณ์ก็ดูปกติ ดี
ประกาศการสัมภาษณ์ เวลา 13.00น.    
จนครั้นเวลามาถึง 12.45น. อะไรๆ ก็ดูจะชัดเจนขึ้นมาในทันที ----
เมื่อผู้สมัครท่านหนึ่งมา โดยที่มีอาจารย์ ที่คณะ แห่กันมาให้การต้อนรับ ประหนึ่งว่า ประกาศตนให้ชัดเจนแล้วว่า นี่ ดูไว้นะ รู้แล้วอย่ามาจ๋อ
อาจารย์ผู้หญิงท่านนั้นก็เดินจากไป พร้อมกับ กรรมการในการสอบ เดินเข้ามายกมือไหว้ ผู้เข้าสอบท่านดังกล่าว
อันนี้ ยิ่งทำให้น่าฉงนเป็นยิ่งนักว่า เหตุใด ถึงจะต้องออกมายกมือไว้ เมื่อดูหน้าตาแล้ว ผู้สมัครคนดังกล่าวก็มิได้แก่กว่า กรรมการผู้สอบแต่อย่างใด ทำให้นึกถึงสถานการณ์ที่คิดไว้ในตอนแรก และคุยกับเพื่อนว่า เป็นการ มีธงปักไว้ก่อนแล้ว โดยไม่ต้อง ตั้งแง่สงสัยแต่ประกาศใด เป็นการประกาศรับสมัครเพื่อทำเป็นพิธี ให้ถูกต้องตามกฏหมายเท่านั้นเอง แต่ก็แน่แปลกว่าอาจารย์แต่ละท่าน คงมีจรรยาบรรณ กันมากเลย ในการดำรงตำแหน่ง และก็คิดว่าหลายๆ คนคงเจอเหตุการณ์เช่นเดียวกับผม
หลังจากนั้น ก็มีการเรียกเข้าสัมภาษณ์ เนื่องด้วยว่า เริ่มรู้เป็นนัยๆ แล้วว่าครานี้ เป็นตัวดัมมี่ ที่ สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้ฉากรับสมัครการสมบูรณ์ เพียงเท่านั้นเอง และ เมื่อเวลาเข้าไปสัมภาษณ์ ใช้เวลาสัมภาษณ์ เราแค่ 5 นาที ซึ่งให้แค่ แนะนำตัว ชื่อเสียงเรียงนาม การศึกษา ปละประวัติการทำงานเท่านั้น ซึ่ง ผู้สอบสัมภาษณ์อีกคน ก็โดนเช่นเดียวกัน เล่นเอาเราหน้าชาและหน้าเสียมาก แต่ก็ยังยิ้มสู้
อีกทั้ง ข้อสังเกตอีกข้อ ในระหว่างที่กรรมการจะเริ่มสัมภาษณ์ อาจารย์ผู้หญิงท่านนึงเดินออกไปนอกห้อง และกลับมาเมื่อสัมภาษณ์เสร็จแล้ว แล้วตรงนี้ คะแนนที่คุณให้ผม มันมาจากไหน แล้วคุณเอาอะไร มาตัดสิน ในเมื่อคุณไม่ได้ฟังแม้แต่คำเดียว พออาจารย์ท่านนี้เดินเข้ามา มีอาจารย์ท่านนึงถามว่า ถ้ารับอาจารย์มา อาจารย์จะสอนอะไรได้ เราก็ตอบตามความถนัดของเราจริงๆ ว่า สอนได้เบื้องต้น เพราะ เราไม่อาจหาญที่จะมาสอนในรายวิชาที่เราไม่มั่นใจ อาจารย์ท่านนั้นกล่าวตอบมาว่า วิชาพวกนนั้นเค้ามีคนสอนกันหมดแล้ว ซึ่งหาก อาจารย์ผู้หญิงท่านนี้เข้ามาอ่านบทความนี้ ผมขอให้คุณเปลี่ยนความคิดใหม่นะครับ ว่า
"วิชาอะไร ใครๆ ก็สอนได้หมดแหละครับ หากอาจารย์เตรียมการสอน มา อย่างดี แต่ มันแตกต่างตรงทักษะ การบรรยายให้นักศึกษาฟัง หรือแม้แต่การ สั่งงาน ซึ่งคุณเอาตัวคุณมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ เพราะผมก็ไม่ได้มั่นใจว่า การที่คุณเข้าไปเป็นอาจารย์ในที่แห่งนั้นได้ คุณมาด้วย เกมกล เช่นนี้ เหมือนกันหรือเปล่า"
แล้วสักวันนึง ผมต้องทำให้คนอย่างคุณได้เห็นแน่ครับ ขอเวลาหน่อย
สุดท้ายนี้ การจัดสรร สรรหา บุคคลากร ของมหาวิทยาลัย ในบางมหาวิทยาลัย ยังมีการสัมภาษณ์ ข้อเขียน หรือสอบสอน แต่มหาวิทยาลัยนี้ มีแต่การสัมภาษณ์ เป็นอย่างเดียว ซึ่งหากคิดอย่างตรรกะแล้ว
การที่คุณสอบถาม แค่ ชื่อ นามสกุล การศึกษา การทำงาน แค่นั้น แล้วคุณเอามาตัดสิน คุณน่าจะดู ต้องแต่ เรซูเม่ผมแล้วนะครับ ผมก็ทำไปค่อนข้างละเอียดพอสมควร ทั้งนี้ ผมบอกตรงๆ ครับ ว่าสงสารอนาคตเด็กไทย ที่ได้ครูที่ไปสอนพวกเค้า แค่เส้นสาย ไม่ได้เอาทักษะ หรืออะไร มาวัดผลให้ชัดเจน หรือถ้าหากคุณ คิดว่า คุณมีการวัดผล ก็ เข้ามาแสดงความเห็นได้นะครับ ว่า แบบไหน แล้วกับคำถามของคุณ มันวัดผลอย่างไร
ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่าน บทความนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับผู้กำลังไปสมัครงาน คัดเลือกเป็นอาจารย์ไม่มากก็น้อย แต่เมื่อวันนี้ ปรึกษาท่านผู้รู้ก็ได้ความว่า เวลาจะสมัคร เป็น อาจารย์ มหาวิทยาลัยที่ใด ก็ควรดูว่า ที่ไหน เปิดรับและปิดเร็ว ที่นั่น เค้ามักจะมีตัวอยู่แล้วครับ
สุดท้ายนี้ ผมก็ขอทายว่า เบอร์ หนึ่งได้แน่นอนครับ เพราะ เค้านอนมา แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะ เรายังไม่ได้ สู้กันด้วยความสามารถเลย
คราวหลัง จะรับสมัครคัดเลือกควรจะให้มีการแข่งขัน แสดงความสามารถกันหน่อยนะครับ ขอให้ เด็กๆ มหาวิทยาลัย วิทยาเขต สารสนเทศเพชรบุรี โชคดีนะครับ


สุรเจต ปัณณะวงศ์
ศศ บ. การจัดการโรมแรมและการท่องเที่ยว
วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เกียรตินิยม อันดับ 2
ศศ ม. การจัดการโรมแรมและการท่องเที่ยวนานาชาติ
มหาวิทยาลัยนเรศวร
Master of Arts in International Tourism and Hospitality Management
Southern Cross University
Drafting Dissertation summit to U.K. university
รบกวนอาจารย์ผู้หญิงท่านดังกล่าวดู Profile ผมเปรียบเทียบกับตัวท่านเองก่อนที่จะมา วิพากษ์ วิจารณ์ คนอื่นครับ

แล้ว ยังไง มาตามดูผลวันที่ 22 นี้ นะครับ
อ้างอิง http://www.management.su.ac.th/news/22-03-2013ResultsTeacher.pdf
ติดตามกันได้นะครับ ว่าเป็นจริงดังที่ผลกล่าวไหม

วันเสาร์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2556

ถึงเวลาจัดการกับ ความปลอดภัยผู้ใช้รถโดยสารสาธารณะหรือยัง

เมื่่อวานมีโอกาสได้พบกับเหตุการณ์ตื่นเต้น ขอเอามาร่วมแชร์ให้ ทุกๆคน ฟังนะครับ

วันที่ 12/01/2013 ได้มีโอกาสไปเดินห้างบิ๊กซี สุขสวัสดิ์ หรือที่ รู้จักกันว่าบิ๊กซีพระประแดงนั่นแหละ
เนื่องจาก ห้างนี้อยู่ใกล้บ้านมากเลยใช้เวลาเดินไปแค่ไม่กี่นาทีก็ถึง แต่วันนี้ บังเอิญซื้อทีวี เลยทำให้ไม่สามารถแบกกลับบ้านได้ เลยต้องใช้บริการรถสาธารณะ หรือที่หลายๆคน เีรียกว่า "แท็กซี่" ครับ

หลายคนคงได้มีโอกาสเจอฤทธิ์เดช ของ พวกแท็กซี่ กันมาบ้างแล้ว และวันนี้ก็ถึงคิวผม

แท็กซี่ ที่จอดให้บริการที่บิ๊กซีสุขสวัสดิ์ มีอยู่เพียงวินเดียว ซึ่งเราจะไปโบกแท็กซี่ ทั่วไป ก็ เกรงว่าจะมีปัญหา
แต่ไหง พอบอกแท็กซี่ ว่าไป ซ.สุขสวัสดิ์39 ซอย 2 เรื่องราวต่างๆก็เกิดขึ้น
บังเอิญว่า พนักงานยกทีวีขึ้นแท็กซี่ไปเรียบร้อยแล้ว ...แต่นั่้นก็ไม่ใช่เหตุที่จะให้รถแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารใช่หรือไม่ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ก็ต้องไปใช่หรือไม่อ่ะ
พอขึ้นรถมาปุ๊บ คนขับเริ่มบ่นบอกว่า ซอย 39 ซอย 2 น่าเบื่อ แม่เราก็ถามว่าน่าเบื่อยังไง มันก็บอกก็มันน่าเบื่อไง เข้าใจเปล่า ขับออกมาแล้วต้องไปวนรถอีก ได้เงินแค่ 35 บาทไม่คุ้ม (เรานึกในใจ แล้วมันจะมาขับทำไมรถแท็กซี่ ก็ไปขับรถเมล์ดิ หรือไม่ก็ขับรถส่วนตัวเลยเป็นไง อยากไปไหนก็ไป)
แล้วก็บ่น พรึมๆ มาตลอดทาง เราก็ทนมา จน เกือบจะถึงบ้าน มันบอก ผมเก็บ40นะ ผมไม่เก็บ35หรอก ไม่คุ้ม ซึ่ง เราก็ว่ามันจะมาขูดรีดอะไร ถ้าอยากจะได้ หรือ เค้าจะให้ทิป ก็บอกตรงๆ ว่า ผมมา เที่ยวนี้ได้น้อย ขอหน่อยละกันนะครับ เพราะก็ทุกทีที่นั่งแท็กซี่ พวกแท็กซี่ก็ปัดเศษให้พวกผมทุกที (หรือว่าไม่จริง)
แต่นี่มันเจาะจงเลย ว่าเอามา 40 บาทนะ ไม่งั้นไม่ยอม ผมเลยบอก เค้าว่า งั้นไม่ต้องไปแล้ว สุขสวัสดิ์ 39 ซอย 2  
ไป สภ พระประแดงเลย ยังมีหน้ามาถามอีก ไปทำไม ....ก็เลยบอกว่าจะไปแจ้งความ ญาติเป็นดำรวจ ขู่ๆ มันไปให้มันกลัว มันเริ่มนิ่งลง แล้วเลี้ยวเข้าซอยเราทันที  สักพักพอมันปล่อยเราลงได้เท่านั้นแหละ เราเปิดประตู พร้อมกับตะโกนเสียงดังๆ ให้คนในซอยบ้านออกมาดู ว่าแท็กซี่คันนี้มันหน้าด้านขนาดไหน ขูดรีดไถ ทั้งๆที่เป็นรถแท็กซี่ จะเรียกเอาเงินเกินไม่ว่าหรอก แต่ขู่บังคับเกินไป พูดจากับแม่เราก็ไม่ได้ดีเลย แต่จะมาเอาเงิน แล้วใครเค้าจะไปให้เงิน ถึงเวลานี้ มันรีบโกยแนบเลยครับ เพราะมันกลัวโดนรุมประชาทัณฑ์ ที่มันขูดรีดกับผู้หญิง

ผมขอตั้งข้อสังเกตุ ฝากแง่คิดไป ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องดังนี้ครับ
1. ตกลง ค่าบริการแท็กซี่ ควรจะตรงตาม  กฎกระทรวง   ฉบับที่ ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๓๙) ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนตร์  พ.ศ. ๒๕๒๒ ข้อ ๕ และ ๑๑ 
หรือ แท็กซี่เรียกเก็บตามอำเภอใจ โดยขัดตามกฏกระทรวงบัญญัติไว้ชัดเจน
2. หากกรณีดังกล่าว ไม่ใช่การขูดรีด แต่เป็นการขมขืน มีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ อย่างไรครับ
และควรจะมีมาตราการใดๆ ที่ มารองรับ กับพวกแท็กซี่แบบ นี้ครับ
3. การรับส่ง ผู้โดยสาร แท็กซี่ควรกระทำตามกฏกระทรวงอีกนะครับว่า ควร จะติดป้ายให้ชัดเจน  ตาม ข้อ ๙ รวม ทั้ง พรบ.จราจรทางบก ลักษณะ 12 รถแท็กซี่
มาตรา 93 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ปฏิเสธไม่รับจ้างบรรทุกคนโดยสารเว้นแต่การบรรทุกนั้นน่าจะก่อให้เกิด อันตรายแก่ตนหรือแก่คนโดยสารในกรณีที่ผู้ขับขี่รถแท็กซี่มีความประสงค์จะไม่รับจ้างบรรทุกคนโดยสารให้แสดง ป้ายงดรับจ้างบรรทุกคนโดยสารวิธีการแสดงป้ายและลักษณะของป้ายงดรับจ้างบรรทุกคนโดยสารให้เป็นไปตาม กฎหมายว่าด้วยรถยนตร์ -- ซึ่ง พออ่านถึงตรงนี้ แท็กซี่ ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ 
แต่พอตอนนี้บอกให้ไปสถานีตำรวจ ยังมีหน้ามาถามว่าไปทำไม 
-------------------------------------------------------------------------------------------

ถึงเวลาที่จะสังคยนา พวกแท็กซี่นอกรีตกันหรือยังครับ หรือต้องปล่อยให้ พวกนี้ เต็มบ้านเต็มเมืองจนควบคุมไม่อยู่ครับ 

ขอบพระคุณอย่างสูงครับ

สุดท้ายขอฝากไว้ว่า หากเจอแท็กซี่ ที่ไม่น่าไว้ใจ หรือมีลักษณะดังกล่าว ให้จอดในระแวก ที่คนเยอะๆ ที่สุดเท่าที่จะทำได้ เปิดประตู ลงมายืนด้านล่าง แล้วก็ตะโกนออก ดังๆ ให้คนอื่นช่วยเลยครับ

อ้างอิง  http://www.trafficpolice.go.th/law14.php  




วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รายชื่อโรงแรมและห้องอาหารแนะนำ สำหรับรับประทานอาหารบุฟเฟ่

จากการตระเวน รับประทาน บุฟเฟ่ ของ หลายๆ โรงแรม ในกรุงเทพมหานคร
ด้วยงบประมาณจำกัด และ ความคุ้มค่าของราคา

โรงแรมใบหยกสกาย น่าจะเป็นหนึ่งสถานที่สำหรับคุณ ที่จะไปเลือกรับประทานอาหาร
ห้องอาหารแนะนำ คือ Bangkok Sky  ซึ่งราคาพอประมาณ และความคุ้มค่าของอาหาร ใช้ได้เลยทีเดียว
มีความหลากหลายของอาหาร ทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น และ ฝรั่ง ซึ่งสามารถเลือกรับประทานได้ตามชอบใจ กุ้ง หอย ปู ปลา ซีฟู๊ด มีพร้อม ราคาก็พอสมควร แต่ไม่แพงมาก ค่าน้ำก็รวมแล้ว นับว่า เป็นการทานบุฟเฟ่ที่จุใจ และคุ้มค่าจริงๆ

ต่อมาคือ ชั้น บน Cyrytal Grill ซึ่ง รายการอาหาร น่าจะมีความใกล้เคียงกันกับห้องอาหารบางกอกสกาย แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ น้ำนั้นไม่รวมอยู่ ในรายการบุฟเฟ่
ราคา ก็ ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
แต่ถ้าให้ผู้เขียนแนะนำ ก็ขอแนะนำชั้นล่าง เพราะราคาถูกและก็คุ้มค่า แต่อาจจะมีผู้คนพลุกพล่าน
ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวและมีกำลังจ่าย ก็ แนะนำเป็นชั้น 82 Crystal Grill เลยครับ


แล้วคราวหลังจะมาอัพเดท ข่าวคราวให้ฟังใหม่อีกนะครับ