การสมัครงานและสัมภาษณ์งานอาจารย์ มหาวิทยาลัยรัฐ แห่งหนึ่ง วิทยาเขตเพชรบุรี
วันนี้ ได้มีโอกาส ไปสัมภาษณ์งาน ในตำแหน่งอาจารย์ มหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ วิทยาเขตเพชรบุรี โดยมีว่าที่ Candidates อยู่ทั้งหมด 3 ท่าน เหตุการณ์ก็ดูปกติ ดี
ประกาศการสัมภาษณ์ เวลา 13.00น.
จนครั้นเวลามาถึง 12.45น. อะไรๆ ก็ดูจะชัดเจนขึ้นมาในทันที ----
เมื่อผู้สมัครท่านหนึ่งมา โดยที่มีอาจารย์ ที่คณะ แห่กันมาให้การต้อนรับ ประหนึ่งว่า ประกาศตนให้ชัดเจนแล้วว่า นี่ ดูไว้นะ รู้แล้วอย่ามาจ๋อ
อาจารย์ผู้หญิงท่านนั้นก็เดินจากไป พร้อมกับ กรรมการในการสอบ เดินเข้ามายกมือไหว้ ผู้เข้าสอบท่านดังกล่าว
อันนี้ ยิ่งทำให้น่าฉงนเป็นยิ่งนักว่า เหตุใด ถึงจะต้องออกมายกมือไว้ เมื่อดูหน้าตาแล้ว ผู้สมัครคนดังกล่าวก็มิได้แก่กว่า กรรมการผู้สอบแต่อย่างใด ทำให้นึกถึงสถานการณ์ที่คิดไว้ในตอนแรก และคุยกับเพื่อนว่า เป็นการ มีธงปักไว้ก่อนแล้ว โดยไม่ต้อง ตั้งแง่สงสัยแต่ประกาศใด เป็นการประกาศรับสมัครเพื่อทำเป็นพิธี ให้ถูกต้องตามกฏหมายเท่านั้นเอง แต่ก็แน่แปลกว่าอาจารย์แต่ละท่าน คงมีจรรยาบรรณ กันมากเลย ในการดำรงตำแหน่ง และก็คิดว่าหลายๆ คนคงเจอเหตุการณ์เช่นเดียวกับผม
หลังจากนั้น ก็มีการเรียกเข้าสัมภาษณ์ เนื่องด้วยว่า เริ่มรู้เป็นนัยๆ แล้วว่าครานี้ เป็นตัวดัมมี่ ที่ สร้างขึ้นมาเพื่อทำให้ฉากรับสมัครการสมบูรณ์ เพียงเท่านั้นเอง และ เมื่อเวลาเข้าไปสัมภาษณ์ ใช้เวลาสัมภาษณ์ เราแค่ 5 นาที ซึ่งให้แค่ แนะนำตัว ชื่อเสียงเรียงนาม การศึกษา ปละประวัติการทำงานเท่านั้น ซึ่ง ผู้สอบสัมภาษณ์อีกคน ก็โดนเช่นเดียวกัน เล่นเอาเราหน้าชาและหน้าเสียมาก แต่ก็ยังยิ้มสู้
อีกทั้ง ข้อสังเกตอีกข้อ ในระหว่างที่กรรมการจะเริ่มสัมภาษณ์ อาจารย์ผู้หญิงท่านนึงเดินออกไปนอกห้อง และกลับมาเมื่อสัมภาษณ์เสร็จแล้ว แล้วตรงนี้ คะแนนที่คุณให้ผม มันมาจากไหน แล้วคุณเอาอะไร มาตัดสิน ในเมื่อคุณไม่ได้ฟังแม้แต่คำเดียว พออาจารย์ท่านนี้เดินเข้ามา มีอาจารย์ท่านนึงถามว่า ถ้ารับอาจารย์มา อาจารย์จะสอนอะไรได้ เราก็ตอบตามความถนัดของเราจริงๆ ว่า สอนได้เบื้องต้น เพราะ เราไม่อาจหาญที่จะมาสอนในรายวิชาที่เราไม่มั่นใจ อาจารย์ท่านนั้นกล่าวตอบมาว่า วิชาพวกนนั้นเค้ามีคนสอนกันหมดแล้ว ซึ่งหาก อาจารย์ผู้หญิงท่านนี้เข้ามาอ่านบทความนี้ ผมขอให้คุณเปลี่ยนความคิดใหม่นะครับ ว่า
"วิชาอะไร ใครๆ ก็สอนได้หมดแหละครับ หากอาจารย์เตรียมการสอน มา อย่างดี แต่ มันแตกต่างตรงทักษะ การบรรยายให้นักศึกษาฟัง หรือแม้แต่การ สั่งงาน ซึ่งคุณเอาตัวคุณมาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ เพราะผมก็ไม่ได้มั่นใจว่า การที่คุณเข้าไปเป็นอาจารย์ในที่แห่งนั้นได้ คุณมาด้วย เกมกล เช่นนี้ เหมือนกันหรือเปล่า"
แล้วสักวันนึง ผมต้องทำให้คนอย่างคุณได้เห็นแน่ครับ ขอเวลาหน่อย
สุดท้ายนี้ การจัดสรร สรรหา บุคคลากร ของมหาวิทยาลัย ในบางมหาวิทยาลัย ยังมีการสัมภาษณ์ ข้อเขียน หรือสอบสอน แต่มหาวิทยาลัยนี้ มีแต่การสัมภาษณ์ เป็นอย่างเดียว ซึ่งหากคิดอย่างตรรกะแล้ว
การที่คุณสอบถาม แค่ ชื่อ นามสกุล การศึกษา การทำงาน แค่นั้น แล้วคุณเอามาตัดสิน คุณน่าจะดู ต้องแต่ เรซูเม่ผมแล้วนะครับ ผมก็ทำไปค่อนข้างละเอียดพอสมควร ทั้งนี้ ผมบอกตรงๆ ครับ ว่าสงสารอนาคตเด็กไทย ที่ได้ครูที่ไปสอนพวกเค้า แค่เส้นสาย ไม่ได้เอาทักษะ หรืออะไร มาวัดผลให้ชัดเจน หรือถ้าหากคุณ คิดว่า คุณมีการวัดผล ก็ เข้ามาแสดงความเห็นได้นะครับ ว่า แบบไหน แล้วกับคำถามของคุณ มันวัดผลอย่างไร
ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่าน บทความนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับผู้กำลังไปสมัครงาน คัดเลือกเป็นอาจารย์ไม่มากก็น้อย แต่เมื่อวันนี้ ปรึกษาท่านผู้รู้ก็ได้ความว่า เวลาจะสมัคร เป็น อาจารย์ มหาวิทยาลัยที่ใด ก็ควรดูว่า ที่ไหน เปิดรับและปิดเร็ว ที่นั่น เค้ามักจะมีตัวอยู่แล้วครับ
สุดท้ายนี้ ผมก็ขอทายว่า เบอร์ หนึ่งได้แน่นอนครับ เพราะ เค้านอนมา แต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะ เรายังไม่ได้ สู้กันด้วยความสามารถเลย
คราวหลัง จะรับสมัครคัดเลือกควรจะให้มีการแข่งขัน แสดงความสามารถกันหน่อยนะครับ ขอให้ เด็กๆ มหาวิทยาลัย วิทยาเขต สารสนเทศเพชรบุรี โชคดีนะครับ
สุรเจต ปัณณะวงศ์
ศศ บ. การจัดการโรมแรมและการท่องเที่ยว
วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เกียรตินิยม อันดับ 2
ศศ ม. การจัดการโรมแรมและการท่องเที่ยวนานาชาติ
มหาวิทยาลัยนเรศวร
Master of Arts in International Tourism and Hospitality Management
Southern Cross University
Drafting Dissertation summit to U.K. university
รบกวนอาจารย์ผู้หญิงท่านดังกล่าวดู Profile ผมเปรียบเทียบกับตัวท่านเองก่อนที่จะมา วิพากษ์ วิจารณ์ คนอื่นครับ
แล้ว ยังไง มาตามดูผลวันที่ 22 นี้ นะครับ
อ้างอิง http://www.management.su.ac.th/news/22-03-2013ResultsTeacher.pdf
ติดตามกันได้นะครับ ว่าเป็นจริงดังที่ผลกล่าวไหม
ขอเป็นพยาน อีกคน ค่ะ เป็นผู้สมัครอีก 1 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์มา ตลอด ขอรับรองว่า ที่ นาย สุรเจต พูดเป็นความจริงทุกประการ อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบข้อมูล เนื่องจาก การเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ นักศึกษา ต้องสอบเข้าโดนการแข่งขัน แต่เพราะเหตุใด อาจารย์ผู้สอน จริงใช้วิธีการ เช่นนี้ การสอนนักศึกษาควรสอนทั้ง วิชาการ และคุณธรรม แต่ในการสอบ กลับพบเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น มีข้อสังสัย หลายประการ เนื่องจากการสอบครั้งนี้ไม่มีการสอบข้อเขียน มีเพียงการสอบสัมภาษณ์ เท่านั้น ซึ่งคำถาม ที่ถามคือ ชื่ออะไรจบที่ไหน ทำงานอะไร นี้หรือ ค่ะที่จะวัดว่า มีความรู้อะไรบ้าง จะได้เข้าทำงานหรือไม่ ไม่มีการถามความรู้แต่ประการ ใด และที่สังเกต พบ ว่า ในการสัมภาษณ์ไม่มีการให้คะแนน และไม่เห็นใบคะแนน นี้หรือค่ะ วงการของผู้มีความรู้ วงการ การศึกษาของประเทศไทย ถ้าเก่งจริง ก็สู้กันด้วยวิธีที่ใสสะอาดเถอะ ค่ะ อย่าทำวิธีแบบนี้เลย
ตอบลบอาจารย์ยอดเยี่ยมมากๆๆค่ะ เคยเจอแบบนี้บ่อยมากค่ะอาจารย์ ไม่น่าเชื่อว่าสถานศึกษาเมืองไทยจะเหมือนกันไปหมดแล้ว...สงสารคนทำงานที่ตั้งใจหอบความรู้ความสามารถไปให้เด็กๆด้วยความจริงใจ คิดว่าที่อื่นๆก้อมีเช่นกันแต่ไม่มีใครกล้าออกมายอมรับความจริง เบื่อคำว่าเขามีคนเขาอยู่แล้ว สมัครพอเป็นพิธี...เต็มทน เสียเวลา เสียเงิยนค่าเดินทางและเสียความรู้สึกมากๆๆค่ะ...อยากให้สังคมมีคนกล้าพูดความจริงแบบอาจารย์มากๆๆค่ะ คนที่ชอบระบบเส้นสายจะได้หมดไปเสียที การศึกษาไทยจะได้พัฒนาโดยเริ่มจากการรับคนมีความรู้ความสามารถเข้ามาสอนเด็กจริงๆๆค่ะ...สู้ๆๆๆนะคะอาจารย์....จาก...คนเคยสัมภาษณ์งานอาจารย์คนหนึ่ง
ตอบลบThank you very much ka for sharing (:
ตอบลบเป็นปกติ ของสังคมไทยในยุคปัจจุบันครับ ที่มีการใช้เส้นสายมาก่อน
ตอบลบประเทศเราจึงไม่มีการพัฒนา เพราะ ขนาด อาจารย์ยังเป็นกันอย่างนี้ แล้วจะพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาให้ทันประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างไร
#กระทรวงศึกษาธิการ ต้องเข้ามาดูแล และ สร้างหลักการที่เป็นบรรทัดฐานให้กับสังคมไทยครับ
ไม่ฉะนั้น พวกเราคงต้่องนั่งมองประเทศของเราที่ถอยหลังลงไปทุกที
---- ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านสู้กับ เส้นสาย ทั้งหลายและ ผ่านพ้นไปจงได้นะครับ
เจส พึ่งได้อ่าน น่ากลัวจัง เราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังจะไปสมัครเป็นอาจารย์แต่ก็ไม่ได้มีเส้นสายอะไร มีแต่ความรู้และความตั้งใจที่อยากจะทำในสิ่งที่รัก ซึ่งหากเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ถือว่าแย่มากเลย และเราคิดว่าอีกหลายๆแห่งก็คงจะเป็นเหมือนกันหมด ที่เพื่อนบอกว่าให้ดูวันรับสมัครนั้น ถ้าเหมาะสมมันควรจะมีระยะเวลา
ตอบลบกี่วัน สองอาทิตย์นี้น้อยไปไหม จะเป็นกำลังใจให้เพื่อนเสมอ คนเก่งและดีหายากในสังคม สู้ๆนะเพื่อนเจส
คุณสุรเจตน์ ยังงัยลองไปสมัครที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียวไหมครับ เพราะเค้าต้องการอาจารย์ด้านโรงแรม และ catering หรืออะไรประมาณนี้ ลองดูนะครับ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบรบกวนแชร์สถานที่ แบบ คร่าวๆ ได้ไหมครับ เป็นข้อมูล ขอบคุณครับ
ตอบลบJaruwan Jankong ได้ฝากความคิดเห็นไว้ที่บทความของคุณ "การสมัครงานและสัมภาษณ์งานอาจารย์ มหาวิทยาลัยรัฐ แห...":
ตอบลบขอแสดงความคิดเห็นแตกต่างนะค่ะ ไม่ได้รู้จักใครเป็นการส่วนตัวทั้งสองคน แต่ทำงานเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเช่นเดียวกัน บางทีสถานที่คัดเลือกบุคคล อาจารย์ที่จะเข้ามาสอนอันดับแรกแน่นอนคือปริญญาที่บ่งบอกว่าผู้นั้นมีความรู้ จริงอยู่คุณอาจจะมีคุณสมบัติที่คิดว่าดีกว่าอาจารย์อีกท่านก้อได้ แต่อย่าลืมว่ายังต้องมีคุณสมบัติอีกมากมายที่เค้าพิจารณาไม่น้อยกว่าเช่นกัน แน่นอนเราอาจจะเคยเห็นอาจารย์บางท่านเก่งมากๆ แต่ไม่มีความสามารถถ่ายทอดความรู้ให้คนเข้าใจได้ เรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก นั่นคือประสบการณ์ สิ่งที่หน่วยงานต้องการคือทัศนคติที่ตรงกัน การทำงานร่วมกันเป็นทีม อีคิว คุณได้ย้อนมองตัวเองหรือยังว่ามีสิ่งเหล่านี้อยู่มากน้อยเพียงใดถ้าเทียบในคุณสมบัติแค่คุณเล่ามา คุณมีแค่ 1 ใน 3 ถึงตอนนี้แล้วบอกไม่ถูกจริงๆว่าควรแสดงความเสียใจ หรือดีใจกับ เด็กๆ มหาวิทยาลัย วิทยาเขต สารสนเทศเพชรบุรี แต่ขอให้คุณโชคดีเช่นเดียวกันค่ะ
เค้ามาคอมเม้นแล้ว อยู่ดีๆ ก็ลบไปเลยเอากลับมา โพสให้อีกครั้งครับ เนื่องจากเห็นจุด contrast ตรงที่บอกว่าอาจารย์ต้องใช้ทักษะการถ่ายทอด สื่อสาร แต่ผิดตรงที่มหาลัยนี้ไม่การทดสอบ เลยไม่รู้จะแสดงความเสียใจ หรือดีใจจริงๆ. อีกอย่าง ประสบการณ์สอนผมมีครับ แต่ไม่ได้เพราะแค่ต้องการให้อาจารย์ท่านนั้นที่ดูถูก ปริญญาของมหาวิทยาลัยนเรศวรว่าเค้าไม่มีสิทธิที่จะมาดูถูกครับ เพราะมีบทความตอนนึงที่ผมไม่ได้เอาลงไป เป็นการสนทนาและพูดดูถูกมหาวิทยาลัยผมอย่าัดเจน ซึ่งผมพิจารณาแล้วเค้าไม่มีสิทธิมาวิจารญ์ปริญญา เพราะ ผมไม่เคยคิดจะไปวิจารญ์ปริญญาใครครับ แม้แต่อาจารย์เค้าจบจากราชภัฏมา ผมยังไม่เอามาว่าหรือ เหน็บในส่วนนี้เลย เพราะผมคิดว่าทุกคนมีสิทธิและโอกาสที่แตกต่างกัน ดังนั้น การที่ผมพิมพ์บทความต่างๆนี้ เพื่อสิ่งต่างๆ ดังนี้ครับ
ตอบลบ1.เป็นความรู้แก่ท่านที่กำลังสมัครและสัมภาษณ์งานในลักษณะนี้ เพื่อเป็นสวนหนึ่งในการพิจารณา เพราะทุกท่านมีวิจารณญาณในการ คิดและแยกแยะ
2.เพื่อเตือนสติอาจารย์ผู้หญิงท่านนั้น ให้ตระหนักถึงพฤติกรรมซึ่งแสดงออก ทั้งๆ ที่มหาวิทยลัยแต่มหาสิทยาลัย ก็มีศักดิ์ และสิทธิแหงปริญญาที่เท่ากัน ดังนั้นใคร่ขอวิงวอนอย่าดูถูกปริญญาสถาบันอื่น ข้อนี้ผมขอร้องครับ
3.ให้มหาวิทยาลัย ข้าราชการ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ตระหนักถึงแนวทางในการรับสมัครอาจารย์ และพินิจ วิเคราะห์ แนทางในการสรรหาบุคคลากร
สุดท้าย เพื่อสะท้อนสิ่งที่ผมได้พบและเจอ เพื่อเป็นประสบการณ์สอนคนรุ่นหลัง และเพื่ออนาคตของเด็กๆที่กำลังศึกษาครับ
@Jaruwan Jankong แค่อยากให้คุณเข้าใจว่าหากเป็นใครมาดูถูก หรือมาบอกว่ามหาวิทยาลัยที่คุณจบมา ทำอะไรไม่เป็นเลย คุณคงรู้สึกเช่นเดียวกับผม ทั้งๆที่โอกาสไม่ได้หยิบยื่นให้ แต่ ที่เข้าไปนั่ง นี่คือให้ ดูถูกมหาวิทยาลัยล้วนๆ อันนี้ผมรับไม่ได้ครับ
ตอบลบ